Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอล
วิเคราะห์บอล
เว็บบอร์ด
ประเพณีฉุดสาว วัฒนธรรมบนน้ำตาของสาวชาวม้ง
ประเพณีฉุดสาว เป็นธรรมเนียมของชาวม้งอีกอย่างหนึ่ง
ที่อนุญาตให้ผู้ชายสามารถฉุดผู้หญิงที่ยังไม่เคยต้องชายใดมาก่อน กลับเข้าบ้านและอยู่กินได้แบบไม่ผิดผี โดยประเพณีนี้จากการศึกษาของ พิสิษฐ์ โรจน์คณรัชต์ ได้อธิบายขั้นตอนดังนี้ว่า
การฉุดสาวเป็นการทำกันโดยกลุ่มผู้ชายทั้งวัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคน
ผู้ฉุดจะทำการส่งเสียงเรียกฝ่ายหญิงหรือแม้กระทั่งดักรอผู้หญิงออกมาจากนอกบ้านเพียงลำพัง ก่อนจะใช้กำลังฉุดขึ้นรถกระบะกลับไปอยู่ที่บ้านประมาณ 1-3 คืน
เมื่อเสร็จสมก็จะส่งตัวแทนจากบ้านตัวเองไปหาพ่อ-แม่ฝ่ายหญิงต่อรองสู่ขอกันตามธรรมเนียม
ขั้นตอนการสู่ขอพ่อแม่ฝ่ายหญิง
แม้มีสิทธิในการปฏิเสธความรักที่เกิดจากฉุดครั้งนี้
แต่ความเป็นจริงกลับเป็นเรื่องยากที่จะเรียกร้องให้ส่งคืนลูกสาวตัวเองคืนมา เนื่องจากสภาพความเชื่อที่ไม่ต้องการเห็นลูกตัวเองเป็นแม่หม้ายหรือหญิงที่ผ่านสามีมาก่อนนั่นเอง
นักศึกษาวิถีชีวิตชาวม้งนี้ได้ให้เหตุผลที่มาของประเพณีสร้างน้ำตาอย่างชอบธรรมว่าเป็นเรื่องที่เกิดจากมิติด้านสภาพแวดล้อม
โดยในอดีตชาวม้งเป็นกลุ่มคนจีนอพยพจากภัยความรุนแรงมายังบริเวณตอนเหนือของไทย
และกระจายไปตามเทือกเขาต่างๆ
บวกเข้ากับมิติวัฒนธรรมที่นิยมอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่เพื่อช่วยเหลือกัน การแต่งงานจึงมักเกิดจากการคลุมถุงชนระหว่างผู้หญิงม้งอีกเขาลูกหนึ่ง กับ ผู้ชายม้งอีกเขาลูกหนึ่ง แบบที่ทั้งคู่ไม่ได้รักกัน
ต่อมาชาวม้งจึงเริ่มอาศัยวิธีหนีไปกับผู้ชายที่ตัวเองรัก
ประเพณีการฉุดสาว จึงเกิดขึ้นมาเพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าวสำหรับครอบครัวคลุมถุงชนฝ่ายชายนั่นเอง
กระแสม้งฉุดสาวในสมัยนี้
เมื่อโลกพัฒนาไปอีกก้าว ประเพณีฉุดสาว จึงกลายสภาพจากธรรมเนียมโบราณเป็นการตีตราพิธีกรรมที่ลิดรอนคุณค่าผู้หญิงแบบถึงที่สุด ทั้งการมองเป็นวัตถุที่แบกขึ้นกระบะไปไหนมาไหนก็ได้ รวมถึงการมองความสำคัญผู้หญิงเพียงแค่การหลับนอนกับผู้ชายแค่ครั้งเดียวในสายตาของพ่อแม่จนต้องยอมยกลูกสาวให้กับผู้ชายที่พรากไป
แน่นอนว่าปัจจุบันการฉุดสาวแบบขืนใจได้ลดน้อยลงเมื่อเทียบกับอดีต
มีการเรียกร้องให้เลิกประเพณีการฉุดหญิงสาวมาเป็นภรรยา เพราะประเพณีนี้มักตามมาด้วยปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวจึงเป็นเหตุให้ ปี 2559
ชมรมม้งแห่งประเทศไทยและชาวม้งที่กระจายอยู่ทั่วโลกเลยต่างออกมายืนยัน การฉุดสาวมาเป็นภรรยาไม่ใช่ประเพณีของชาวม้งอีกต่อไป รวมถึงนับให้เป็นความผิดทางกฎหมายต่อไป
ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การให้คุณค่ากับวัฒนธรรมก็เปลี่ยนไปเหมือนกันทั้งประเพณี สิ่งของ ความคิด รวมถึงไปคุณค่าของผู้หญิง ชาย รวมไปถึงเพศหลากหลายที่แต่เดิมเป็นเพียงคนชายขอบให้กลับมาเสมอเท่ากันอย่างแท้จริง ติดตามความรู้เพื่อความเข้าใจในความหลากหลายได้ที่
iNN Lifestyle
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : Kingdom
เมื่อ 6 ส.ค. 2567 03:41:05 น. อ่าน 21 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์