balldoo
Menu

10 สเต็ปแต่งหน้าพื้นฐานสำหรับมือใหม่ ต้องลงอะไรก่อน-หลังมาดู!

Step 1: เตรียมผิวหน้าให้พร้อมสำหรับการลงเมกอัพ
การเตรียมผิวให้พร้อมก่อนแต่งหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้ นอกจากช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะแล้วยังช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงและทำให้เมกอัพติดทน โดยสกินแคร์สำหรับการเตรียมผิวนั้นก็มีอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เอสเซนส์, เซรั่ม, มอยส์เจอไรเซอร์ สามารถเลือกใช้ตามสภาพผิวได้เลย ซึ่งขั้นตอนการลงสกินแคร์แนะนำให้ค่อยๆ ลง และรอแต่ละตัวให้เซ็ตเข้าผิวก่อนจึงลงตัวต่อไปเพื่อไม่ให้ผิวอุดตัน

Step 2: ทาครีมกันแดด
ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือโปรฯ ครีมกันแดดก็ถือเป็นไอเท็มสำคัญที่ห้ามลืมโดยเด็ดขาด ซึ่งวิธีการใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้องแนะนำให้ทาในปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือ และทาซ้ำๆ 2-3 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังควรเลือกค่า SPF30+ PA+++ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดมากที่สุด

Step 3: ปรับผิวให้เรียบเนียนด้วยรองพื้น
รองพื้น เป็นไอเท็มที่ช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียน สม่ำเสมอ พร้อมปกปิดรอยดำรอยแดงและริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งการเลือกฟินิชของรองพื้นให้เข้ากับสภาพผิวสำคัญมาก เช่น ผู้ที่มีผิวแห้งการใช้รองพื้นที่ให้ฟินิชแบบฉ่ำโกลว์นั้นตอบโจทย์มากกว่า ในขณะที่ผิวหน้ามันแนะนำให้เลือกเป็นรองพื้นแบบแมตต์เพราะช่วยควบคุมความมันได้ดี

Step 4: เซ็ตผิวด้วยแป้ง
แป้งมีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมัน รวมถึงเซ็ตเครื่องสำอางให้ติดทน เทคนิคการลงแป้งแนะนำให้ลงบริเวณ T-Zone เพราะเป็นบริเวณที่ผลิตน้ำมันออกมามากที่สุด ทำให้หน้ามันง่ายกว่าส่วนอื่น นอกจากนี้แป้งแต่งหน้าก็มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน สำหรับมือใหม่แนะนำแป้งโปร่งแสง (Translucent) เพราะสามารถเข้าได้กับทุกสีผิว ให้งานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ หากใครอยากทำความรู้จักแป้งแต่ละชนิดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ Powder 101 ทำความรู้จักกับแป้งแต่ละประเภท

Step 5: เขียนคิ้วให้เป็นทรงสวย
รูปทรงคิ้วนั้นมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น คิ้วทรงตัว S หรือ คิ้วทรงโก่ง สำหรับมือใหม่แนะนำคิ้วทรงตรงสไตล์สาวเกาหลี เพราะนอกจากจะสามารถวาดโครงคิ้วได้ง่ายแล้วยังให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติด้วย สามารถอ่านวิธีการเขียนคิ้วแบบละเอียดสำหรับมือใหม่ได้ที่ ฮาวทูเขียนคิ้วง่ายๆ สำหรับมือใหม่

Step 6: ขั้นตอนการแต่งตา
อายแชโดว์ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาดูสดใส มีมิติขึ้น โดยสำหรับขั้นตอนการแต่งตา เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเลือกสีอายแชโดว์ที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็น โทนสีชมพู โทนสีพีช หรือสีน้ำตาล จากนั้นเลือก 2-3 สีในโทนเดียวกันทั้งเฉดอ่อนไล่ไปเข้ม เลือกโทนอ่อนที่สุดเป็นเบสลงก่อน จากนั้นเลือกโทนเข้มมาลงบริเวณหางตาให้ดูมีมิติขึ้น หรือสำหรับใครอยากแต่งหน้าแบบง่ายๆ สามารถเลือกเป็นอายแชโดว์เนื้อครีมเพื่อลงเป็นสีโทนเดียวก็สวยไม่แพ้กัน

Step 7: ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า
การดัดขนตาให้เริ่มดัดจากช่วงโคนขยับไปเรื่อยๆ จนถึงปลายขนตา (แนะนำให้ค่อยๆ ดัด เพราะไม่งั้นอาจหนีบโดนเปลือกตาได้) จากนั้นปัดมาสคาร่าต่อได้เลย ทั้งนี้การดัดขนตาในช่วงแรกๆ อาจเป็นขั้นตอนที่ยากและขัดใจใครหลายคน แต่หากฝึกดัดไปเรื่อยๆ จนเข้ามือแล้ว ก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย ได้ขนตางอนเด้งสวยดังใจแน่นอน

Step 8: ดวงตาคมสวยด้วยอายไลเนอร์
การเขียนอายไลเนอร์มีด้วยกันหลายสไตล์ เช่น Basic Line, Cat Eye, Graphic Liner สำหรับมือใหม่แนะนำให้ลองใช้อายไลเนอร์แบบดินสอจะช่วยให้ควบคุมง่ายกว่าแบบลิควิด และสำหรับรูปทรงนั้นแนะนำให้กรีดตามรูปตาจะง่ายที่สุด หรือสามารถเข้าไปอ่านวิธีการกรีดอายไลเนอร์แบบละเอียดได้ที่ 4 สเต็ปง่ายๆ ในการเขียนอายไลเนอร์สำหรับมือใหม่

Step 9: ปัดแก้มด้วยบลัชออน
การปัดแก้มช่วยให้เมกอัพลุคดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้น โดยสำหรับทริคในการปัดแก้มนั้นเริ่มต้นด้วยการเลือกบลัชออนที่ชอบ โดยอาจเลือกเป็นสีเดียวกับอายแชโดว์หรือโทนสีที่ใกล้เคียง เพื่อให้เมกอัพดูละมุน จากนั้นค่อยๆ ปัดบริเวณหน้าแก้ม ไล่สูงไปจนถึงโหนกแก้ม ระวังอย่าปัดให้เลยจมูกลงมาเพราะจะทำให้หน้าดูหย่อนคล้อย

Step 10: ทาลิปสติกปิดท้าย
ก่อนทาลิปสติกแนะนำให้ทาด้วยลิปบาล์มก่อนเพื่อบำรุงริมฝีปากและช่วยให้ลิปสติกติดทนยิ่งขึ้น ในส่วนของลิปสติกนั้นก็มีอยู่หลายประเภทให้เลือกใช้ แต่สำหรับใครที่อยากได้ลุคดูใสๆ ในวันแต่งหน้าเบาๆ แนะนำให้เลือกเป็นแบบทินต์เพราะทาง่าย ให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ และติดทนยาวนาน

โพสต์โดย : POPCORN POPCORN เมื่อ 23 ก.พ. 2567 18:03:02 น. อ่าน 39 ตอบ 0

facebook