balldoo
Menu

ประโยชน์ของขนุน ผลไม้หวานฉ่ำ หน้าร้อน อร่อย ดีต่อร่างกาย

ประโยชน์และสรรพคุณของ ขนุน

ประโยชน์ของขนุน

  • เนื้อไม้ : ใช้ทำพื้นเรือนและสิ่งก่อสร้าง
  • ใบ : ใบอ่อนรับประทานสดหรือลวกกับน้ำพริก
  • ผล : ผลอ่อนใช้ทำประกอบอาหาร ผลสุกกินเป็นผลไม้
  • ราก : แก้โรคผิวหนัง แก้ท้องเสีย
  • เมล็ด : นำไปต้มสุกกินจะช่วยบำรุงน้ำนมในสตรีหลังคลอด
  • ผลสุก : มีกลิ่นหอม เนื้อด้านในสีเหลือง นำมาทานหรือผสมกับน้ำหวานเป็นขนม และเนื้อในสีเหลืองลื่น ทานแล้วรักษาโรคเกี่ยวกับทรวงอก หากทานมากจะเป็นยาระบายอ่อนๆ
  • ผลอ่อน : นำมาต้มเป็นผักจิ้ม มีฤทธิ์ฝาด ช่วยรักษาอาการท้องเสีย
  • น้ำยาง : จะมี resins ใช้เป็นสารเคลือบวัตถุหรือนำมาผสมกับยางไม้อื่น เพื่อทำตังดักนกได้ นอกจากนี้ยังใช้เป็นยารักษาโรคซิฟิลิส และขับพยาธิ

    สรรพคุณของขนุน

    1. -ช่วยลดความดันโลหิต
    2. -ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง
    3. -ช่วยป้องกันมะเร็ง
    4. -ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ
    5. -ช่วยบำรุงกระดูก
    6. -ช่วยบำรุงประสาท-สมอง
    7. -ช่วยสร้างเสริมระบบย่อยอาหาร 
    8. -ช่วยลดระดับความดันสูงให้มีความสมดุล
    9. -ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ

     

    ข้อควรระวังในการทานขนุน

    • ห้ามทานขนุนร่วมกับน้ำผึ้ง เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคือง ต่อกระเพาะอาหาร มีอาการบวม และปวดในกระเพาะอาหาร อาการบวมที่ท้องอย่างรุนแรง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
    • ห้ามทานขนุนร่วมกับชา เนื่องจากขนุนและชาเป็นอาหารเย็น หากรับประทานร่วมกัน ร่างกายจะดูดซึม ส่วนประกอบที่เย็นมากเกินไป ซึ่งจะเพิ่มภาระให้กับกระเพาะอาหาร ของร่างกายได้ง่ายและบางครั้ง อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องหรืออาการท้องร่วง และอาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ ตามมาได้
    • ห้ามทานขนุนร่วมกับหัวไชเท้า อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วย มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องได้
    • ห้ามทานขนุนร่วมกับลำไย เนื่องจากขนุนเป็นผลไม้ที่มีความเย็น ในขณะที่ลำไยเป็นผลไม้ ที่มีความอบอุ่น มีลักษณะตรงกันข้าม หากนำมาทานร่วมกัน อาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่อร่างกายได้ง่าย
    • ผู้ที่เป็นเบาหวานห้ามทานขนุน ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ไม่ควรทานขนุน เนื่องจากขนุนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง จะทำให้อาการรุนแรงขึ้นและมีแนวโน้ม ที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้
    • ห้ามผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ทานขนุน เพราะอาจทำให้ร่างกายเกิดอาการแพ้ได้ง่าย 

โพสต์โดย : เจ้าหนู เจ้าหนู เมื่อ 31 ม.ค. 2567 06:41:00 น. อ่าน 34 ตอบ 0

facebook