ตามประเพณีที่สืบทอดกันมา เทศกาลคาร์นิวัลเป็นช่วงการเฉลิมฉลองที่จัดขึ้นก่อนเทศกาลมหาพรต
(Lent) เทศกาลนี้จะอยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์หรือเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระยะเวลาช่วงสุดท้ายที่ผู้คนจะมีโอกาสออกไปเที่ยวอย่างเต็มที่และสนุกสนานอย่างสุดเหวี่ยงก่อนเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการอดอาหาร 40 วัน แต่รากเหง้าของเทศกาลดังกล่าวสืบย้อนไปได้ไกลกว่านั้นอีก เทศกาลคาร์นิวัลมีต้นกำเนิดมาจากเทศกาลลัทธินอกศาสนา ซึ่งชาวอียิปต์โบราณเฉลิมฉลองในโอกาสสิ้นสุดฤดูหนาวและเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ
ตั้งแต่นั้นมา เทศกาลคาร์นิวัลได้เผยแพร่ไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยแต่ละพื้นที่ได้แทรกขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมประเพณีของตนเองเข้าไปในงานเทศกาล แม้แต่ชื่อก็อาจแตกต่างกันได้ เทศกาลนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไปด้วยชื่อ “มาร์ดีกราส์
(Mardi Gras)” (ซึ่งเป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า
“Fat Tuesday”) ในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะหมายถึงวันก่อนเทศกาลมหาพรต
ในปัจจุบัน เทศกาลคาร์นิวัลเป็นการเฉลิมฉลองที่ไม่มีนัยทางศาสนา โดยมีทั้งดนตรี การเต้นรำ และอาหารผ่านขบวนพาเหรดที่ทุ่มทุนตกแต่งอย่างหรูหราและปาร์ตี้ริมถนนซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก และคุณก็ได้รับเชิญด้วย
จากเทศกาลคาร์นิวัลทั้งหมดในโลก งานการ์เนวาเลดิเวเนเซีย (
Carnevale di Venezia) ของอิตาลี หรือเทศกาลคาร์นิวัลแห่งเวนิส เป็นงานเทศกาลที่โด่งดังที่สุดงานหนึ่ง ทุกๆ ปี เมืองจะได้รับการเปลี่ยนโฉมให้กลายพื้นที่จัดงานเต้นรำสวมหน้ากากที่มีมนต์ขลัง ซึ่งผู้มาเที่ยวเทศกาลจะสวมใส่เครื่องแต่งกายสุดล้ำของยุคศตวรรษที่ 18 พร้อมหน้ากากสีสันสดใสและเสื้อคลุมกำมะหยี่ อย่าพลาดความสนุกและออกไปเดินเที่ยวตามท้องถนนพร้อมด้วยหน้ากากเวนิสแบบแฮนด์เมดของคุณเอง
หากการแต่งเนื้อแต่งตัวไม่ใช่สิ่งที่คุณชอบ เวนิสก็มีการแสดงทางน้ำอันน่าตื่นเต้นในพื้นที่อาร์เซนาเล
(Arsenale) และเรือกอนโดลาที่ตกแต่งอย่างสวยงามซึ่งล่องไปตามลำคลองที่มีชื่อเสียงของเวนิส ไฮไลท์อื่นๆ ได้แก่ขบวนพาเหรดสาวงามเฟสตาเดลเลมารีเอ
(Festa Delle Marie) ซึ่งเป็นการประกวดสาวงามแบบดั้งเดิมของเวนิส และการโหนซิปไลน์เหินเวหาโวโลเดลลังโจโล
(Volo dell'Angelo หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า
“Flight of the Angel”) ซึ่งเป็นประเพณีอันน่าตื่นเต้นในเทศกาลคาร์นิวัลซึ่งจะมีคนเหินข้ามจัตุรัสเซนต์มาร์กบนเส้นเชือก
คุณจะพบกับงานเฉลิมฉลองอันน่าทึ่งได้ทั่วทุกแห่งในบราซิล แต่ งานคาร์นิวัลในรีโอเดจาเนโรนับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดและมีชีวิตชีวาที่สุด กลุ่มโบลโกo)
(Bloc(บล็อกปาร์ตี้) จะใช้พื้นที่เต็มท้องถนน ด้วยเสียงกลองที่เป็นจังหวะ การเต้นระบำแซมบ้า และพลังที่ไร้ขอบเขต สิ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งคือกลุ่มอามิกอสดาออนซา
(Amigos da Onca) ในธีมซาฟารี และกลุ่มกอร์เดาดาโบลาเปรตา
(Cordao Da Bola Preta) ซึ่งเป็นกลุ่มโบลโกซึ่งเก่าแก่ที่สุดของริโอ
การรับชมขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ในซัมบาโดรมก็เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้เช่นกัน ทุกๆ คืน นักเต้นระบำที่มีเสน่ห์ชวนมองหลายพันคนจะเต้นอยู่เคียงข้างรถแห่ขนาดมหึมา นักท่องเที่ยวต่างบอกกันว่าที่นี่เสียงดัง มีสีสัน และสนุกสนานมาก จองตั๋วเพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาด
หากคุณต้องการเปลี่ยนทัศนียภาพ ให้เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มโบลโกบนหาดเลบลอนบีช
(Leblon Beach) ที่อบอวลไปด้วยแสงแดด หรือเต้นระบำที่บีชคลับสักแห่งตามแนวหาดบาร์ราดาติจูกา
(Barra da Tijuca)
เทศกาลคาร์นิวัลแห่งตรินิแดดได้รับการขนานนามว่าเป็น “แม่” ของเทศกาลคาร์นิวัลในภูมิภาคแคริบเบียน โดยเป็นต้นตำรับของงานเฉลิมฉลอง (ปาร์ตี้) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดจำนวนหนึ่งโดยรอบภูมิภาค พบกับกิจกรรมต่างๆ ที่อัดแน่นมากมาย ตั้งแต่ขบวนพาเหรดสวมหน้ากากไปจนถึงการแข่งขันดนตรีโซกา (การผสมผสานระหว่างดนตรีโซลกับดนตรีแอฟโฟร-แคริบเบียน) รื้อฟื้นความรู้เกี่ยวกับท่าเต้นต่างๆ เช่น ท่าหมุนเอวส่ายสะโพกและท่าก้าวเดินสับเท้า เพื่อที่คุณจะได้ร่วมเต้นไปกับคนท้องถิ่น แต่ถ้านั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณชอบ ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ ไปพร้อมกับการลิ้มรสอาหารข้างทางอย่างขนมดับเบิลส์ ซึ่งเป็นแป้งสองแผ่นห่อไส้ถั่วชิกพีแกงกะหรี่
แต่ปาร์ตี้จบแล้วก็อย่าเพิ่งกลับนะ เดินทางไปยังเกาะโตเบโก
(Tobago) ที่เงียบกว่า แล้วเติมพลังบนหาดทรายขาวบริสุทธิ์สักแห่ง โดยเริ่มจากหาดพีเจนพอยต์
(Pigeon Point Beach)
งานมาร์ดีกราส์เป็นสุดยอดปาร์ตี้ริมถนนในนิวออร์ลีนส์ แต่เทศกาลคาร์นิวัลจะจัดขึ้นล่วงหน้าก่อนวันจริงเป็นเวลานาน ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม เมืองนี้จะแวดล้อมไปด้วยงานเฉลิมฉลองของชุมชน การตกแต่งที่ชวนมอง และร้านค้าจำนวนมากที่จำหน่ายขนมเค้กพระราชา
(king cake) นอกจากนี้ กลุ่มครูว์
(Krewe) (องค์กรทางสังคมที่วางแผนเกี่ยวกับขบวนพาเหรด) ยังเปิดตัวรถแห่ขนาดใหญ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยจะมีการแจกของขวัญต่างๆ เช่น ลูกปัด ถ้วย และแม้กระทั่งรองเท้าที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ให้แก่ผู้คนที่เฝ้ารอของขวัญเหล่านั้น คำแนะนำของเรา: สร้างความโดดเด่นด้านเครื่องแต่งกายเพื่อให้ได้รับของแจกฟรีมากขึ้น
เริ่มจองแต่เนิ่นๆ เนื่องจากโรงแรมเต็มเร็วมาก ที่จอดรถอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก ดังนั้นจึงควรพักในทำเลใจกลางเมืองที่สามารถเดินไปมาระหว่างจุดต่างๆ ได้ เช่น ย่านเฟรนช์ควอเตอร์หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ นอกจากนี้ คุณยังอาจลองพักในย่านการ์เดนดิสตริกต์
(Garden District) ซึ่งสามารถไปทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยการนั่งรถราง
เป็นประกายระยิบระยับใช่หรือไม่ ใช่เลย สุดยอดไปเลยใช่หรือไม่ แน่นอนอยู่แล้ว งานมาร์ดีกราส์สำหรับเกย์และเลสเบียนในซิดนีย์เฉลิมฉลองวัฒนธรรม
LGBTQTIA+ ด้วยลูกบอลหลากสีและกิจกรรมในชุมชนเป็นเวลามากกว่า 17 วันอันงดงามเรืองรองช่วงฤดูร้อน ขบวนพาเหรดหลักเดินไปตามถนนออกซ์ฟอร์ด
(Oxford Street) ของซิดนีย์ โดยประกอบไปด้วยกลุ่มคนที่เดินร่วมขบวนแห่ในชุดเสื้อผ้าหลากสีสันและรถแห่ที่สวยงามตระการตา ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ปาร์ตี้หาดบอนได
(Bondi Beach Party)อันโดดเด่นได้กลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยกลุ่มดีเจจากประเทศต่างๆ และการแสดงสุดพิเศษ
หากคุณต้องการอยู่ใกล้กับกิจกรรมต่างๆ อาจลองเลือกพักที่เมืองดาร์ลิงเฮิสต์
(Darlinghurst) หรือเมืองเซอร์รี่ฮิลส์
(Surry Hills) ทั้งสองเมืองนี้เป็นศูนย์กลางของกลุ่มเพศทางเลือกที่มีบาร์และคลับสำหรับชาว
LGBTQIA+ อยู่มากมาย ย่านศูนย์กลางธุรกิจ ยังเป็นจุดที่เหมาะจะใช้เป็นที่พัก หากคุณต้องการพื้นที่ซึ่งสะดวกทั้งต่อการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และการเข้าร่วมปาร์ตี้
วิอาเรจโจอาจเป็นเมืองเล็กๆ แต่เทศกาลคาร์นิวัลแห่งวิอาเรจโจเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของอิตาลี จุดดึงดูดหลักของที่นี่คือรถแห่ขนาดใหญ่ที่สร้างจากกระดาษเปเปอร์มาเชซึ่งใช้เสียดสีการเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทุกสุดสัปดาห์ จะมีขบวนพาเหรดไปตามถนนลาปัสเซจจาตา
(La Passeggiata) ที่งดงามราวกับภาพวาด พร้อมด้วยผู้มาเที่ยวเทศกาลคาร์นิวัลซึ่งแต่งตัวด้วยชุดสีสันสดใสเพื่อเพิ่มบรรยากาศสุดวิเศษ
ต้องการหยุดพักจากกิจกรรมต่างๆ ใช่หรือไม่ ผ่อนคลายสบายๆ ที่บีชคลับใกล้ๆ อย่างคลับบาโญอิรีเน
(Bagno Irene) ซึ่งยังสามารถรับประทานอาหารทัสกานีอร่อยๆ ที่นี่ได้ด้วย หรือไปที่ชิตตาเดลลาเดลการ์เนวาเล
(Cittadella del Carnevale) ซึ่งเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติของเทศกาลคาร์นิวัล รวมถึงรถแห่ในปีก่อนๆ
เรซิฟีและโอลิงดาตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล เป็น 2 เมืองที่เปิดโอกาสให้ผู้มาเที่ยวเทศกาลคาร์นิวัลได้สัมผัสบรรยากาศแบบท้องถิ่นมากขึ้น จุดสำคัญของงานเฉลิมฉลองอยู่ที่ดนตรีเฟรโว อันเป็นรูปแบบดนตรีและการเต้นรำที่เร่งเร้าและรวดเร็ว
เริ่มต้นวันใหม่ของคุณที่เทศกาลคาร์นิวัลแห่งโอลิงดา ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องขบวนพาเหรดของกลุ่มโบลโกและหุ่นที่มีชีวิตชีวา หุ่นดังกล่าวมีขนาดสูงถึง 10 ฟุต โดยได้แบบมาจากคนดังชาวบราซิล ตัวละครในภาพยนตร์ที่ผู้คนชื่นชอบ หรือแม้แต่นักฟุตบอลชื่อดังระดับโลก (เกร็ดความรู้: คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่พิพิธภัณฑ์กาซาดูชโบเนกูชจิกันเตช
- Casa dos Bonecos Gigantes) เดินทางไปฉลองเทศกาลคาร์นิวัลต่อจนถึงช่วงกลางคืนที่เรซิฟี ซึ่งใช้เวลา 20 นาทีโดยทางรถยนต์ อย่าพลาดชมการแสดงราตรีแห่งกลองสงัด
(Night of the Silent Drums) ซึ่งมีประเด็นอันซาบซึ้งเพื่อรำลึกถึงผู้ล่วงลับในการค้าทาส เทศกาลนี้เริ่มต้นตอนพลบค่ำในวันจันทร์เทศกาลคาร์นิวัลที่ลานปาติอูดูแตร์ซู
(Patio Do Terco)