balldoo
Menu

ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยการ “นอนหลับ”



1.นอนหลับให้เป็นเวลา

ไม่ว่าจะเป็นวันที่ไปทำงานหรือแม้แต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ การเข้านอนและการตื่นนอนควรจะเป็นช่วงเวลาเดียวกัน นั่นเพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ร่างกายจะปรับตัวให้คุ้นชินตามกิจวัตรประจำวัน และนี่คือข้อแรกที่เราควรปฏิบัติให้ได้หากเราอยากมีการนอนที่ดี

2.อย่าออกกำลังกายช่วงท้ายของวัน
การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดี ดั่งที่ สสส.พยายามรณรงค์ให้คนไทยพยายามออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน แต่พยายามอย่าออกกำลังกายช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน ไม่อย่างนั้นแทนที่จะหลับง่าย ร่างกายจะตื่นตัว นอนไม่หลับแทน

3.หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและนิโคติน
ตามที่หลายคนทราบว่าหากง่วงนอนให้เราดื่มกาแฟ เพราะมีคาเฟอีนอันส่งผลกระตุ้นให้เราหายง่วง โดยเฉพาะการดื่มกาแฟในช่วงยามบ่ายของวันเพราะฤทธิ์ของคาเฟอีนจะอยู่ในร่างกายของเรากระตุ้นให้ระบบประสาทตื่นตัว ส่วนนิโคตินที่เป็นส่วนประกอบหลักในบุหรี่ สังเกตได้ว่าเหล่านักสูบมักจะเป็นพวกตื่นเช้ากว่ากำหนดเพราะการทำงานของนิโคตินนั่นเอง

4.หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
นอกจากภาวะแฮงค์จากการบริโภคแอลกอฮอล์เข้าไปจำนวนมากแล้ว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังไปรบกวนภาวะการนอนหลับในช่วง REM ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงภาวะการนอนหลับที่สำคัญอย่างมาก

5.อย่าทานหรือดื่มเยอะเกินไปในช่วงกลางคืน
การรับประทานอาหารปริมาณมากๆ ส่งผลกับการทำงานของระบบย่อยอาหาร ซึ่งจะต้องทำงานหนัก ทำให้รบกวนการนอน และถ้าหากดื่มน้ำมากเกินไปจะทำให้เราตื่นตอนกลางคืนเพื่อลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำแทนที่จะได้หลับอย่างยาวนานตลอดคืน

6.หลีกเลี่ยงการทานยาบางตัวที่มีผลต่อการนอน (หากเป็นไปได้)
ข้อนี้อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ป่วย แต่จากการวิจับพบว่าตัวยาที่ใช้รักษาโรคอย่างโรคหัวใจหรือโรคความดันมีผลรบกวนการนอนหลับของเรา หากพบว่าการนอนไม่หลับของเราเกี่ยวเนื่องมาจากผลข้างเคียงของยาเหล่านี้ สามารถเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ประจำตัวเพื่อปรับเปลี่ยนเวลาในการรับประทานยาได้

7.อย่างีบหลังช่วง 15.00 น.
การพักผ่อนช่วงสั้นๆหรือการงีบเป็นเรื่องดีที่จะชาร์จพลังให้ร่างกายและสมองระหว่างวัน แต่หากเรางีบในช่วงบ่ายสายๆ จะทำให้เรานอนหลับได้ยากขึ้นเมื่อถึงเวลานอนตอนกลางคืน

8.พยายามหาเวลาพักผ่อนก่อนเข้านอน
สำคัญอย่างยิ่งที่เราจะละทิ้งความเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างวัน เพื่อให้จิตใจผ่อนคลาย สำหรับผู้เขียนเองชอบอ่านหนังสือเนื้อหาเบาๆใต้โคมไฟแสงสีอ่อน หรือบางครั้งก็โยคะ ยืดเส้นยืดสายก่อนนอน 5-10 นาที

9.อาบน้ำอุ่นๆก่อนเข้านอน
หลายคนคิดว่าการอาบน้ำอุ่นจะทำให้ไม่สบายตัวเพราะอากาศก็ร้อนอยู่แล้ว แต่ที่จริงแล้วน้ำอุ่นทำให้เราผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น เป็นการปรับสมดุลร่างกาย

10.ให้ห้องนอนอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นอย่างเหมาะสม และไร้ซึ่งอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี
ในยุคการสื่อสารไร้พรมแดนเช่นนี้อาจะเป็นเรื่องยาก แต่การที่มีอุปกรณ์เหล่านี้ทำให้เราไขว้เขวจากการนอนได้ง่าย แทนที่เราจะหลับได้ง่ายขึ้น หลายคนใช้เวลาก่อนนอนไปกับการเพ่งโทรศัพท์มือถือเป็นชั่วโมง นอกจากนี้แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์เหล่านี้ทำให้การหลั่งฮอร์โมนทำงานอย่างไม่เป็นปกติอีกด้วย ทางแก้คือการปรับแสงหน้าจอและเข้าสู่โหมดกำจัด Blue light

11.รับแสงแดด
พยายามออกไปรับแสงแดดตามธรรมชาติบ้างเพื่อให้ระบบการนอนของเราเป็นไปตามปกติตามที่ธรรมชาติสร้างมาให้การรับรู้แสงแดดตามนาฬิกาชีวิต อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน โดยเฉพาะในยามเช้า เพราะสำหรับประเทศไทยแสงแดดในช่วงสายอาจทำให้เป็นลมได้

12.อย่าพยายามอยู่บนที่นอนหากไม่ได้นอน
หากรู้สึกตัวว่าเรายังอยู่บนเตียงแต่ไม่ได้นอนหลับเกิน 20 นาที นั่นเป็นสัญญาณที่กำลังบ่งบอกว่าเราอาจนอนไม่หลับ ให้ลองหาอะไรทำที่เราคิดว่าจะทำให้หลับได้ง่ายขึ้น เพราะยิ่งพยายามข่มตาหลับเท่าไหร่ ก็จะยิ่งนอนหลับยากขึ้นเท่านั้น

โพสต์โดย : เจ้าหนู เจ้าหนู เมื่อ 19 ม.ค. 2567 07:18:17 น. อ่าน 33 ตอบ 0

facebook