balldoo
Menu

เที่ยวกัมพูชา ชมความยิ่งใหญ่ ปราสาทนครวัดนครธม

     หากจะพูดถึงการไปเที่ยวกัมพูชาแล้ว สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ต้องไปชื่นชม ปราสาทนครวัด กันสักครั้ง ปราสาทนครวัด เป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "เมืองพระนคร" ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมร ในสมัยที่ยังรุ่งเรือง ในอาณาบริเวณปราสาทอันกว้างใหญ่ ได้ถูกก่อสร้างด้วยหินทรายขนาดมหึมา นำมาเรียงรายต่อกันและสลักลวดลายอย่างงดงาม กว่าจะได้หินมาแต่ละก้อนต้องชักลากมาจากเขาพนมกุเลน ชึ่งอยู่ห่างออกไปถึง 50 กิโลเมตร ต้องใช้แรงงานคนและสัตว์มานับไม่ถ้วน ใช้ช่างแกะสลัก 5,000 คน ใช้เวลาสร้างร่วม 100 ปี การจะนำหินขนาดใหญ่แต่ละก้อนมาสร้างเป็นปราสาทที่งดงามได้ขนาดนี้ จะต้องมีการวางผังแบบแปลนในการก่อสร้างมาเป็นอย่างดี ซึ่งถือได้ว่าเป็นฝีมือของวิศวกรชั้นเอกในสมัยนั้นกันเลยทีเดียว ตัวปราสาทสูง 60 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสูงตามคติของศูนย์กลางจักรวาล ล้อมรอบด้วยปราสาท 5 หลัง มีคูน้ำล้อมรอบตามแบบอย่างของมหาสมุทรที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ กำแพงด้านนอกล้วนแต่เป็นงานแกะสลักเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 และเรื่องราวจากวรรณคดีเรื่อง รามายณะ รูปแกะสลักที่มีชื่อที่สุดก็คือรูปที่เทวดากับอสูรกวนเกษียรสมุทรด้วยเขาพระสุเมรุ และยังมีรูปแกะสลักนางอัปสรอีกถึง 1,635 นาง ที่ทั้งหมดแต่งกายและทรงผมไม่ซ้ำกันเลย ลองหาดูกันให้ดีๆ จะมีนางอัปสรที่ยิ้มเห็นฟันเพียงองค์เดียวเท่านั้น ปราสาทนครวัดได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ที่มีนักท่องเที่ยวกัมพูชา แห่เข้ามาชมปราสาทหินนครวัด-นครธม กันอย่างคับคั่ง มีคนเดินเข้าออกตั้งแต่เช้าถึงเย็น อย่างไม่ขาดสาย  

     เที่ยวกัมพูชาชมนครวัดกันแล้ว ใกล้ๆ กันนี้ท่านจะได้พบกับความอัศจรรย์ของ ปราสาทบายน นับเป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความซับซ้อนทั้งในแง่โครงสร้างและความหมาย สิ่งที่อัศจรรย์ของปราสาทแห่งนี้คือ ยอดของปราสาททั้ง 54 ยอด  เป็นหินทรายที่ถูกแกะสลักเป็นพระพักตร์ของพระอวโลกิเตศวร หันหน้า ออก 4 ทิศ รวมทั้งหมด 216 หน้า ด้วยสายตาที่ทอดลงมายังที่ต่ำ และรอยยิ้มที่เป็นสุขหรือยิ้มแบบบายนที่เปี่ยมด้วยความเมตตา เพื่อสอดส่องดูแลความทุกข์สุขของเหล่าพสกนิกรของพระองค์ให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำให้ผู้พบเห็นมิอาจจะละสายตาไปได้ง่าย ซึ่งในปัจจุบันได้สึกกร่อนไปตามวันเวลา และพังทลายลงไปหลายหน้าแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวกัมพูชาหลายคนที่เยี่ยมชมปราสาทบายนแล้วต่างพากันนับจำนวนพระพักตร์กันว่าครบหรือไม่ และโดยรอบปราสาททั้งสี่ด้านนั้น ปรากฏภาพแกะสลักนูนต่ำ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่มีอายุนับพันปี ประตูด้านทิศใต้ ยังมีความสมบูรณ์ของรูปประติมากรรมลอยตัวของเทวดาและยักษ์ยื้อยุดฉุดนาคเพื่อกวนเกษียรสมุทร อันเป็นตอนเริ่มจากนิยานปรัมปราที่พวกพราหมณ์เล่าถึงตอนกำเนิดโลกมนุษย์และจักรวาล  

     นอกจากปราสาทนครวัด และปราสาทบายน ที่นักท่องเที่ยวกัมพูชานิยมไปเยี่ยมชมนั้น ยังมีปราสาทอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ปราสาทตราพรหม นั่นเอง ซึ่งปราสาทตาพรหม มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ตรงที่ เป็นปราสาทที่ซ่อนความอลังการอยู่ในป่าที่ปกคลุมด้วยต้นไม่ครึ้ม เคยถูกทิ้งรกร้างนานจนเถาวัลย์พันเกี่ยว และมีต้นไม้ขนาดใหญ่คือต้นสะปง  ออกรากคร่อมปรกคลุมปราสาท รากไม้ทำให้ปราสาทปรักหักพังแห่งนี้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ดูคลาสสิก เป็นอย่างมาก บ่งบอกถึงความเก่าแก่ของต้นไม้ที่มีอายุนับร้อยปี ซึ่งนักท่องเที่ยวกัมพูชา เมื่อได้มาพบกับบรรยากาศของปราสาทตาพรหมแล้ว ต้องตะลึงกับความอลังการของธรรมชาติที่สร้างขึ้นมาเกาะเกี่ยวปราสาทไว้อย่างลงตัว ทำให้ดูลึกลับ สวยงาม ไม่เหมือนปราสาทที่อื่นๆ ที่น่าแปลกใจอีกสิ่งหนึ่งก็คือ ภาพแกะสลักเป็นรูปไดโนเสาร์ซึ่งทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ในสมัยนั้นมีผู้พบเห็นไดโนเสาร์แล้วหรืออย่างไร นอกจากนี้ ปราสาทตาพรหม เป็นที่ปรากฏให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็น จากภาพยนตร์หลายๆ เรื่องในฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น Kingkong , Indiana Jones และล่าสุดในเรื่อง Tomb Rider อีกด้วย  

     มาเที่ยวกัมพูชากันต่อ ชมพระอาทิตย์อัสดง ที่ ภูเขาพนมบาเค็ง จุดชมวิวที่สวยงามที่สุด มองเห็นอาณาบริเวณรอบๆ ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่เพียงเท่านั้น ภูเขาพนมบาเค็งยังเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างมาตรงตามหลักดาราศาสตร์เป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นทิศเหนือใต้ ออกตก เมื่อถูกวัดโดยเข็มทิศแล้วจะตรงตามทิศพอดีอย่างไม่มีผิดเพี้ยน เขาพนมบาเค็ง เป็นเทวสถานที่สร้างตามลัทธิไศวนิกาย ตั้งอยู่บนเขาลูกเล็กที่มีความสูงประมาณ 70 เมตร มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า ปราสาทยโศธระปุระ ต่อมาเรียกตามลักษณะของต้นบาเค็งที่มีอยู่มากในบริเวณภูเขานี้ จึงกลายเป็น พนมบาเค็ง โดยตัวปราสาทลอกแบบมาจากปราสาท บากอง ที่เมืองหลวงเก่าของอาณาจักรขอมชื่อว่า โรโล่ย มีรูปทรงเป็นปีรามิดสี่เหลี่ยมขั้นบันได 5 ชั้น ลดหลั่นกันไป มีปรางขนาดเล็กรายล้อมอยู่ตามชั้นต่างๆ และมีการออกแบบให้หันหน้าเข้าหาทิศตะวันออกแท้ โดยมีขีดแสดงทิศอยู่ที่พื้นหิน จะเห็นว่ามีหลักศิวลึงค์อยู่ตรงกลาง และฐานโยนีชี้ไปทางทิศเหนือ ตามหลักของศาสนาฮินดู ตรงตามปฏิทินมหาศักราช ซึ่งเมื่อถึงวันปีใหม่ ดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงหน้าประตูพอดี ศิวะลึงค์จะเรืองอร่ามด้วยแสงอาทิตย์ยามเช้าเหมาะแก่การทำพิธีสำคัญของศาสนาฮินดูเป็นอย่างยิ่ง  

โพสต์โดย : Kingdom Kingdom เมื่อ 8 ม.ค. 2567 06:44:10 น. อ่าน 31 ตอบ 0

facebook