balldoo
Menu

ผักที่ดีต่อสุขภาพที่สุด

  - หัวหอม คุณจะได้รับประโยชน์จากหัวหอมมากที่สุดเมื่อคุณรับประทานแบบดิบๆ การนำหัวหอมไปผ่านอุณหภูมิที่สูงนั้นจะลดประโยชน์ที่ได้รับจากสารที่ป้องกันโรคมะเร็งปอดและต่อมลูกหมาก ลองผสมหัวหอมดิบเข้ากับมะเขือเทศ อะโวคาโดและพริกเพื่อทำเป็นซอสจิ้ม ก่อนหยดน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติ
  - ข้าวโพด งานวิจัยพบว่ายิ่งนำข้าวโพดไปปรุงให้สุกนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเช่น lutein ซึ่งช่วยต่อสู้กับการเกิดภาวะตาบอดในผู้สูงอายุมากขึ้นเท่านั้น
  - ถั่วแบบฝัก งานวิจัยพบว่าการรับประทานถั่วแบบฝักเป็นประจำทุกวันร่วมกับผักอื่นๆ นั้นจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารได้
  - บรอคโคลี่ นั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง งานวิจัยหนึ่งพบว่าผู้ที่รับประทานผักแบบหัวสัปดาห์ละ 5 ถ้วยขึ้นไปนั้นมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะลดลงครึ่งหนึ่งในช่วง 10 ปีที่ทำการศึกษาเมื่อเทียบกับผู้ที่แทบจะไม่ได้รับประทาน 
  - พริกหยวกสีแดง พริกหยวกขนาดกลางนั้นให้พลังงานน้อยแต่อุดมไปด้วยวิตามินซี โดยให้วิตามินซีมากถึง 150% ของปริมาณที่ต้องการในแต่ละวัน และยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดแดงแข็งตัวซึ่งอาจทำให้เกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย
  - ผักโขม ผักโขมนั้นอุดมไปด้วยสารกลุ่มแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเกิดจอประสาทตาเสื่อมซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ตาบอดในผู้สูงอายุ การนำผักโขมไปปรุงสุกนั้นจะทำให้ lutein (ซึ่งเป็นสารในกลุ่มแคโรทีน) นั้นดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
  - Alfafa sprouts ผักชนิดนี้อุดมไปด้วยสารกลุ่มเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ป้องกันการเกิดมะเร็งปอดและช่วยทำให้ผิวหนัง เส้นผม เล็บ เหงือก ต่อมต่างๆ กระดูก และฟันแข็งแรง นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งอาจจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ เส้นเลือดสมองอุดตันและลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้
  - Brussels sprouts สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในผักชนิดนี้สามารถกำจัดสารพิษที่ทำให้เกิดมะเร็งได้ และการรับประทานผัก ½ ถ้วยนั้นยังให้วิตามินซีมากถึง 80% ของปริมาณที่ต้องการในแต่ละวันและป้องกันโรคต้อกระจก
  - หัวบีท หัวบีทนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ป้องกันโรคมะเร็งสูงและยังมี lutein ซึ่งช่วยบำรุงสายตา อย่าดึงส่วนที่เป็นใบทิ้งไปเพราะใบนั้นเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารสูงที่สุด ให้นำใบดังกล่าวนั้นมาปรุงอาหารเหมือนกับผักใบเขียวอื่นๆ

โพสต์โดย : solo solo เมื่อ 25 พ.ย. 2566 06:42:00 น. อ่าน 38 ตอบ 0

facebook