balldoo
Menu

เริ่มต้นปีใหม่ด้วย 10 เป้าหมายที่ควรทำ เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ให้ดีกว่าที่เคย


คนส่วนใหญ่ก็มักจะใช้โอกาสในช่วงเริ่มต้นปีใหม่นี้ ตั้งเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม โดยส่วนใหญ่จะเป็นการตั้งเป้าหมายชีวิตเพื่อพัฒนาตนเอง ทั้งในด้านความคิด ด้านความสัมพันธ์ การเพิ่มความรู้และศักยภาพให้ตนเอง สำหรับใครยังไม่รู้ว่าจะตั้งเป้าหมายชีวิตอย่างไร หรือจะพัฒนาตนเองแบบไหน บทความนี้จะแนะนำแนวทางในการตั้งปณิธานปีใหม่ พร้อมเคล็ดลับสู่ความสำเร็จที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม 10 ข้อ แบบง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้


เพราะทัศนคติที่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง สำหรับใครที่ตั้งเป้าหมาย อยากพัฒนาตนเอง การเปลี่ยนทัศนคติเป็นสิ่งง่ายๆ ที่ทำได้ เช่น การเปลี่ยนทัศนคติในการมองโลก เปลี่ยนทัศนคติในการใช้ชีวิต หลายๆคนอาจจะมีอคติต่อเจ้านาย เพราะว่าเจ้านายคอยจู้จี้บ่อยๆ ลองเปลี่ยนทัศนคติใหม่ มองว่าการที่เจ้านายมาคอยจู้จี้บ่อยๆ เพราะอยากให้งานออกมาดีที่สุด การที่มีคนคอยวิพากษ์วิจารณ์ ก็เป็นการที่ทำให้เราได้รู้ผลเสีย และนำจุดนั้นมาพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้ การคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ทำไม่ได้ ก็ควรเปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่า “เราทำได้” จะช่วยให้ดึงดูดแต่สิ่งดีๆ เข้ามา และทำให้เรากล้าที่จะลงมือทำมากขึ้น

การพัฒนาตนเองด้านความคิดอีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้ คือการหันมารักตัวเองมากขึ้น อย่างการกินอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย การตั้งเป้าหมายชีวิตโดยการลดน้ำหนัก และทำให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น การรักคนที่เห็นคุณค่าในตัวเรา และทำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่ทนกับความรักที่เห็นแก่ตัวหรือความรักที่เอาเปรียบ การเสียสละในเรื่องความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ดี แต่การเสียสละจนไม่เหลือความเป็นตัวเอง จะทำความสัมพันธ์เป็นไปอย่างฝืนๆ และไม่ยืนยาว ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนหรือคนรักก็ตาม

ในเรื่องของการออกกำลังกาย ข้ออ้างยอดฮิตก็คงหนีไม่พ้นคำว่า “ไม่มีเวลา” ลองเปลี่ยนมาเป็นคนที่มีวินัยมากขึ้น ทั้งในการออกกำลังกาย การกิน การทำงาน การเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมาย หรือการหาเวลาพักผ่อนให้สมดุล ลองลดการจดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือลง จะทำให้เราเหลือเวลาที่จะทำอะไรต่างๆ ได้มากขึ้น และสามารถพาตัวเองให้บรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วมากขึ้น


ทั้งการให้อภัยตัวเองและคนรอบข้าง จะให้เรากลายเป็นคนใจกว้างมากขึ้น การให้อภัยตัวเอง คือการรู้ว่าตัวเองทำผิด และให้ความผิดเป็นบทเรียน ย้ำเตือนตัวเองว่าจะไม่ทำผิดเป็นครั้งที่สอง หรือการที่คาดหวังว่าจะทำให้ได้ตามเป้าหมาย แต่ตัวเองทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง จะทำให้เรากล้ายอมรับความจริง และนำจุดบกพร่องพัฒนาตัวเองต่อไปได้ ส่วนการให้อภัยคนรอบข้าง ไม่ได้แปลว่าจะให้โอกาสในการทำผิดซ้ำๆ ศิลปะในการให้อภัย คือการตั้งเงื่อนไขให้ทำตาม หรือให้โอกาสในการแก้ไขความผิดนั้นอย่างเต็มความสามารถ และไม่ทำผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง

ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดแบบนี้ เป็นสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และคาดเดาได้ยาก ทำให้เราไม่สามารถพบปะหรือติดต่อกับคนรอบข้างได้บ่อยๆ ควรหาเวลาในการคุยกัน ถามสารทุกข์สุขดิบแก่เพื่อนๆ ครอบครัว หรือคนที่มีความรักความหวังดีให้แก่กันบ้าง จะช่วยลดอาการซึมเศร้าลงได้ ติดต่อกันบ่อยๆ ให้มากที่สุด ในวันที่สามารถทำได้ จะได้ไม่มานั่งเสียดายทีหลัง สิ่งเล็กๆ ที่มองว่าไม่จำเป็น อาจจะกลายเป็นสิ่งสำคัญขึ้นมาในวันที่สายไปแล้วก็ได้


ระบบคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเองก็มีการอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆอยู่เสมอ ถ้าไม่อยากให้กลายเป็นคนตกรุ่นก็ควรที่จะเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ทั้งเรื่องของ Crypto Currency เทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตในอนาคต หรือความรู้อื่นๆที่สนใจ จะช่วยพัฒนาตนเองให้กลายเป็นคนรอบรู้ ก้าวทันโลก และพร้อมรับมือกับปัญหาใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

สำหรับใครที่กลัว ไม่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ เพราะกลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวที่จะไม่สบายเท่าเดิม ปีใหม่นี้ ลองมาพัฒนาตัวเองโดยการกล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ เช่น การเปลี่ยนสายงานใหม่ การลงเรียนวิชาใหม่ๆ ที่คิดว่าตัวเองไม่ถนัด จะเป็นการบังคับให้ตัวเองกล้าออกจาก Comfort Zone ไม่แน่ การตัดสินใจในครั้งนี้ อาจจะเปลี่ยนชีวิตแบบก้าวกระโดดเลยก็เป็นได้ ทุกการเปลี่ยนแปลง จะทำให้เราค้นพบอะไรใหม่ๆ เสมอ ฉะนั้น กล้าเข้าไว้ และอย่ากลัวทุกการเปลี่ยนแปลง

การอ่าน เป็นการช่วยเปิดโลกให้กว้างขึ้นได้ เพราะสามารถเรียนรู้โลกกว้างผ่านการอ่านหนังสือได้ไม่กี่เล่ม และยังช่วยให้ฝึกทักษะการสื่อสาร การใช้ภาษา ช่วยสะสมคลังศัพท์ให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการผ่อนคลายอีกรูปแบบหนึ่งที่หลายๆ คนชอบ และหนังสือ ยังทำให้เราได้ทบทวนตัวเอง ได้ตกตะกอนความคิด ผ่านการอ่าน คิด และวิเคราะห์อีกด้วย ใครที่ซื้อหนังสือไว้แล้วไม่ได้อ่าน ก็ลองหยิบขึ้นมาอ่านให้หมดภายในปีนี้ดู

มีการรณรงค์ และผลักดันเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมกันทุกปี แต่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว อาจจะเป็นเพราะปัจจัยรอบข้างที่อาจจะไม่เอื้ออำนวย เช่น การแยกขยะ ซึ่งแยกไปแล้วก็ต้องผ่านการคัดแยกอีกรอบ ไม่สามารถจัดการได้เป็นสัดส่วน หรือมีการแยกทิ้ง แยกเก็บแบบในต่างประเทศ สิ่งที่ทุกคนทำได้อย่างง่ายๆ คือการหมั่นดูแลรักษาเครื่องยนต์รถ เพื่อช่วยลดมลพิษจากท่อไอเสีย ใช้ถุงผ้า หรือนำถุงพลาสติกมาใช้ซ้ำ สร้างพื้นที่สีเขียวในบ้าน และลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น เพียงเท่านี้ ก็สามารถช่วยโลกได้

การที่เราต้องพยายามเพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งอยู่ตลอด อาจจะทำให้รู้สึกเครียดหรือกดดัน ในสถานการณ์แบบนี้ อาจจะทำให้หลายคนท้อ หมดไฟ หรือพบกับภาวะ Burnout ได้ง่าย ลองเปลี่ยนมามีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ดูบ้าง อาจจะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น เช่น การได้กินของอร่อยๆ การที่เราสามารถทำในสิ่งที่เราชอบ ทำในสิ่งที่เรารักได้ การมีงานทำ การได้อยู่กับเพื่อน หรือครอบครัวที่ดี การได้แต่งหน้า แต่งตัวให้ดูดี ลองชมตัวเองในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ดูบ้าง จะทำให้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น หรือการชม การให้กำลังใจคนอื่น หรือการแบ่งปันน้ำใจให้คนรอบข้าง จะเป็นการแลกเปลี่ยนพลังงานบวก และทำให้เรารู้สึกว่าโลกนี้น่าอยู่มากขึ้น

หากต้องการมองหาเว็บเกมส์สุดฮิต EURO88BET ศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร ฝาก-ถอน 24ชม. แจกเครดิตฟรีทุกวัน!!!

โพสต์โดย : Senior Senior เมื่อ 7 พ.ย. 2566 17:17:03 น. อ่าน 48 ตอบ 0

facebook