Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอล
วิเคราะห์บอล
เว็บบอร์ด
รู้จักผัก 8 ชนิด ที่ไม่ควรกินดิบๆ ต้องทำให้สุกก่อนจึงจะดี
ถึงแม้ว่า
ผักและผลไม้
ส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้า
หากคุณรับประทานแบบผิด ๆ
หรือไม่คิดก่อนที่จะรับประทาน โดยเฉพาะ
การรับประทานแบบดิบ ๆ
ในปริมาณมาก คุณอาจจะได้รับโทษแทนที่จะได้รับประโยชน์จากผักเหล่านี้ก็เป็นได้ อย่างเช่นผัก 8 ชนิดเหล่านี้ ที่หากกินดิบ ๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดโทษ และทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตแบบที่คุณอาจจะไม่รู้ตัว
1.
กะหล่ำปลี
ถึงแม้ว่าผักอย่าง กะหล่ำปลี จะเป็น
ผักที่มีวิตามินซีสูง
ก็ตาม แต่เราจะได้รับวิตามินซีจากกะหล่ำปลีอย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อเรานำกะหล่ำปลีมาปรุงสุกแล้วค่อยรับประทาน เนื่องจากในกะหล่ำปลียังคงมี สารออกซาเลต ซึ่งเราจะได้รับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย เมื่อมี
การรับประทานกะหล่ำปลีดิบ ๆ ในปริมาณมาก
ซึ่งถ้าหากมีสารออกซาเลตเข้าไปที่กรวยไตมาก ๆ อาจจะ
ทำให้เกิดโรคนิ่ว
ขึ้นได้ และนอกจากนี้กะหล่ำปลีดิบ ยังคงมีสารกอยโตรเจน ซึ่งเป็น
สารที่คอยยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมโทรอยด์
ในร่างกายของเรา ซึ่งจะส่งผลทำให้ร่างกายของเรานั้น ดึงไอโอดีนจากเลือด เพื่อนำไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ จน
ทำให้เกิดโรคคอหอยพอก
ขึ้นได้ แต่สำหรับสารนี้สามารถสลายตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อโดนความร้อน เพราะฉะนั้น การบริโภคกะหล่ำปลีแบบสุก ๆ ถือได้ว่าปลอดภัยอย่างมากที่สุด
2.
ดอกกะหล่ำ
ถือได้ว่าเป็นพืชชนิดหัวอีกชนิดหนึ่ง ที่เรา
ไม่สามารถนำมารับประทานแบบดิบ ๆ
ได้ เพราะดอกกะหล่ำยังคงมีน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่
ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร
ซึ่งจะไม่สามารถย่อยน้ำตาลชนิดนี้ได้ ส่งผล
ทำให้เกิดอาการท้องอืด
และรู้สึกแน่นท้อง ซึ่งถ้าหากคุณรับประทานดอกกะหล่ำปรุงสุก คุณจะสามารถมั่นใจได้ ว่าคุณจะไม่พบเจอโทษจากดอกกะหล่ำ
3.
บรอกโคลี
เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลี จึงมีน้ำตาลที่ส่งโทษทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน หากมีการนำมารับประทานแบบดิบ ๆ อีกทั้งในบรอกโคลี ยังคงมีฮอร์โมนบางชนิด ที่
กระตุ้นทำให้เกิดโรคไทรอยด์
ได้อีกเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น ผักอย่างบรอกโคลี จึงเป็นผักอีกหนึ่งชนิด ที่เราไม่ควรนำมารับประทานแบบดิบ ๆ ในปริมาณมากนั่นเอง
4.
ถั่วฝักยาว
การรับประทานถั่วฝักยาวแบบดิบ ๆ ในปริมาณมาก ค้นพบว่า ถั่วฝักยาว จะมีปริมาณไกลโคโปรตีน พร้อมทั้งเลคตินสูง สารชนิดนี้จะ
ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเกิดอาการท้องเสียได้ในระยะเวลา 3 ชั่วโมงได้
นั่นเอง
5.
ถั่วงอก
ถือได้ว่าเป็นผักยอดนิยม ที่ถูกนำมารับประทานสด ๆ อย่างเป็นประจำ ซึ่งเสี่ยงต่อการได้รับโทษจากสารโซเดียมซัลไฟต์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สารฟอกขาว ซึ่งถ้าหากผู้รับประทานถั่วงอกดิบ ๆ ในปริมาณมาก เป็นผู้ที่แพ้สารชนิดนี้ด้วยแล้ว ย่อม
ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ มีลักษณะหายใจขัด ความดันโลหิตต่ำ และมีอาการปวดท้อง
ร่วมด้วย ซึ่งสารฟอกขาวนี้จะสลายและถูกทำลายได้ เมื่อมีการนำไปปรุงสุกแล้วเท่านั้น
6.
หน่อไม้
ในหน่อไม้สดจะ
มีสารไซยาไนด์
ซึ่งจะเป็นพิษต่อร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับสารนี้ในปริมาณมาก สารนี้จะเข้าไปจับกับฮีโมโกลบิน ส่
งผลทำให้เกิดอาการขาดออกซิเจน จนทำให้หมดสติ และอาจจะเสียชีวิตได้ในที่สุด
เพราะฉะนั้น ถ้าหากใครอยากจะรับประทานหน่อไม้ ควรปรุงสุกด้วยความร้อนเสียก่อน ถึงจะปลอดภัย
7.
มันสำปะหลัง
หากมีการรับประทานมันสำปะหลังดิบ โดย
เฉพาะในส่วนหัว รากและใบ อาจจะมีพิษส่งผลทำให้ถึงตายได้
ซึ่งพิษในมันสำปะหลังจะเข้าไป
ขัดขวางการทำงานของระบบหัวใจ
ในรายที่
ได้รับพิษน้อยที่สุด จะเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ มีอาการปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ และอุจจาระร่วง
8.
ผักโขม
เป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก แต่ถ้าหากนำมารับประทานแบบดิบ ๆ จะส่งผลทำให้เกิดโทษต่อร่างกายอย่างมากเช่นกัน เพราะภายในผักโขมดิบ ๆ จะมีกรดออกซาลิก ซึ่งจะ
ส่งผลทำให้ลำไส้ของเราระคายเคือง
และยังเป็นตัวขัดขวาง ที่จะทำให้ไม่ร่างกายของเรานั้น ได้ดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม ซึ่งในภายหลังจะส่งผล
ทำให้เราเป็นโรคนิ่ว
แต่ถ้าหากเรานำผักโขมไปปรุงสุกเสียก่อน โทษต่าง ๆ เหล่านี้จะหายไปในทันที
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : solo
เมื่อ 30 ต.ค. 2566 03:51:42 น. อ่าน 62 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์