Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอล
วิเคราะห์บอล
เว็บบอร์ด
เสริมหน้าอก รู้ให้จริง เลือกให้เป็น สวยได้สบายใจ
รูปแบบการเสริมหน้าอก
การผ่าตัดเสริมหน้าอกในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 แบบ
สามารถทำแบบใดแบบหนึ่งหรือทำร่วมกันทั้งสองอย่างในครั้งเดียวได้ ประกอบไปด้วย
1.) การเสริมหน้าอกด้วยเต้านมเทียม (Breast Implant Augmentation)
2.) การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer Augmentation)
เป็นวิธีที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะใช้เนื้อเยื่อตนเอง ไม่ใช้วัตถุแปลกปลอม มีความเป็นธรรมชาติสูง แต่มีข้อจำกัดหลายเรื่อง ได้แก่ จำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพิ่มเติมคือ การดูดไขมัน ซึ่งต้องมีอุปกรณ์เฉพาะและการอยู่ตัวของไขมันที่ฉีดอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
ซิลิโคนเสริมหน้าอก
ซิลิโคนที่ใช้เสริมหน้าอกใน
ปัจจุบันเกือบทั้งหมดจะใช้ซิลิโคนเจล (Silicone Gel) ซึ่งผิวภายนอกเป็นถุงซิลิโคนและภายในมีลักษณะเป็นเจล
ผิวภายนอกซิลิโคน มี 2 ชนิด ได้แก่
1.) ผิวภายนอกซิลิโคนชนิดหยาบหรือผิวทราย (Textured)
2.) ผิวภายนอกซิลิโคนแบบผิวเรียบ (Smooth)
นอกจากนี้ยังมีรูปทรงหลายชนิดให้เลือก
เช่น ทรงกลม (Round) ทรงหยดน้ำ (Teardrop) รวมทั้งขนาดและความนูนในระดับต่าง ๆ
ปัจจุบันซิลิโคนเต้านมเทียมมีคุณภาพและความคงทนที่ค่อนข้างดี ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามเวลา 5 ปี หรือ 10 ปี
โดยในส่วนของ
เต้านมเทียมผิวขรุขระหรือผิวทราย (Textured Implant) ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในประเทศไทย
มีข้อมูลระบุว่าสามารถ
ลดการเกิดพังผืดหดรัดและมีพื้นผิวที่สามารถยึดเกาะได้ดี
จึงเหมาะกับซิลิโคนเต้านมบางประเภท
เช่น ทรงหยดน้ำ ซึ่งต้องการการยึดเกาะที่ดีเพื่อให้ไม่มีการพลิกหรือหมุนตัว ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีความละเอียดของผิวทรายที่แตกต่าง ตั้งแต่แบบหยาบหรือขรุขระมาก (Macrotexture) จนถึงแบบละเอียด (Micro – Nano Texture)
ควรเลือกซิลิโคนผิวขรุขระให้เหมาะสมภายใต้คำแนะนำของศัลยแพทย์และมีการเฝ้าระวังและตรวจเช็กหน้าอกอย่างสม่ำเสมอ
วิธีเลือกซิลิโคน
การเลือกซิลิโคนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยศัลยแพทย์จะใช้ข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และแนะนำในการเลือกชนิดและขนาดซิลิโคนที่เหมาะสม ได้แก่
· ขนาดความสูงและความกว้างของลำตัว
· ลักษณะของเนื้อหน้าอกเดิม เช่น ความหย่อนคล้อย ความหนาของผิวหนัง และไขมันบริเวณหน้าอก
ผ่าตัดเสริมหน้าอก
การผ่าตัดเสริมหน้าอกสามารถเลือกบริเวณของแผลผ่าตัดที่จะใช้ในการใส่ซิลิโคนได้ ประกอบไปด้วย
· ใต้ราวนม การผ่าตัดแผลใต้ราวนมสามารถจัดวางตำแหน่งได้ถูกต้อง เสียเลือดน้อย และฟื้นตัวรวดเร็ว
รวมทั้งใช้เป็นแผลผ่าตัดหลักในกรณีที่ทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนซิลิโคน
· ใต้รักแร้หรือรอบปานนม การผ่าตัดแผลใต้รักแร้และบริเวณหัวนมจะทำได้ยากกว่า มีการช้ำและเสียเลือดมากกว่า การพักฟื้นใช้เวลานานกว่า
ตำแหน่งการวางซิลิโคน
โดยทั่วไปตำแหน่งในการวางซิลิโคนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อหรือใต้เนื้อหน้าอก ซึ่งศัลยแพทย์จะแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมกับแต่ละคน โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
· ความหนาของเนื้อบริเวณหน้าอก
· ความหย่อนคล้อยของหน้าอก
· ลักษณะของทรวงอก
เตรียมตัวก่อนเสริมเต้านม
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมเต้านม ได้แก่
· ตรวจร่างกาย
· ตรวจเลือด
· เอกซเรย์ปอด
· ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจตามเกณฑ์
· งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนมาผ่าตัด
· หยุดยาที่รับประทานบางชนิดก่อนการผ่าตัด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามิน หรือสมุนไพร
· หยุดสูบบุหรี่และหยุดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
กระบวนการเสริมเต้านม
กระบวนการเสริมเต้านมจะทำเป็นขั้นตอน ได้แก่
· วิสัญญีแพทย์ให้การดมยาสลบก่อนเริ่มการผ่าตัด
· ศัลยแพทย์จะเริ่มทำการผ่าตัดตามที่ได้วางแผนกับผู้มารับการเสริมหน้าอก โดยทำการเลาะช่องบริเวณหน้าอก ใส่ซิลิโคน และเย็บปิดแผล
· การผ่าตัดเสริมหน้าอกใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง
ภาวะแทรกซ้อนหลังเสริมเต้านม
ภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการเสริมเต้านม ได้แก่
· ปวด
· บวม
· แผลอักเสบ ติดเชื้อ
· มีน้ำเหลืองหรือเลือดออกจากแผลผ่าตัด
· คลำได้ก้อนบริเวณหน้าอก
· ผลข้างเคียงจากยาสลบ ยาแก้ปวด เช่น คลื่นไส้ อาเจียน
· ผลระยะยาวจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนที่อาจเกิดขึ้นได้
เช่น การเกิดพังผืดหดรัด การเคลื่อนตำแหน่งของซิลิโคน การหย่อนคล้อยของหน้าอก รวมทั้งการผิดรูป เช่น แข็งตัวหรือเสียรูปทรง หรือการแตกของถุงซิลิโคน
ดูแลหลังเสริมเต้านม
การดูแลหลังเสริมเต้านม ประกอบไปด้วย
· การดูแลแผลผ่าตัด ในช่วงสัปดาห์แรกสามารถอาบน้ำได้ เนื่องจากแพทย์จะทำการปิดฟิล์มกันน้ำ แต่หลีกเลี่ยงการลงไปแช่ในน้ำหรือว่ายน้ำในสระ
หลังจากพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กและแผลหายดีแล้วจะมีการแนะนำให้ใช้ครีมทาแผลเป็นหรือแผ่นซิลิโคนปิดแผลเป็น
· การดูแลหน้าอกหลังใส่ซิลิโคน แนะนำให้ใส่บราชนิดไม่มีโครงอย่างน้อย 1 เดือน หลีกเลี่ยงการกดทับหรือกระแทกบริเวณหน้าอก และการออกกำลังกายที่ใช้แขนมากในช่วง 1 เดือนแรก
· การดูแลอื่น ๆ ได้แก่ งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ รวมทั้งของหมักดอง อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
การดูแลในระยะยาว หมั่นตรวจเช็กหน้าอกด้วยตัวเองและตรวจแมมโมแกรมตามกำหนด
อายุกับการเสริมเต้านม
ในแต่ละช่วงอายุ
ลักษณะของหน้าอกจะแตกต่างกัน
การเสริมหน้าอกในช่วงอายุน้อยและก่อนมีบุตรจะช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว หน้าอกค่อนข้างกระชับ หย่อนคล้อยช้า แต่มีความตึงสูง และอาจใช้เวลาในช่วงระยะแรกก่อนที่รูปทรงจะเข้าที่ ส่วนการเสริมหน้าอกในช่วงที่อายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังมีบุตร หน้าอกจะมีการขยายตัวมาบ้างแล้ว และมีความยืดหยุ่น ทำให้รูปทรงเข้าที่ได้เร็ว แต่ก็อาจทำให้มีการหย่อนคล้อยเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะบางรายที่หน้าอกเดิมมีการหย่อนคล้อยมากอาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดยกกระชับไปด้วย
การเสริมหน้าอกเป็นการเพิ่มขนาดของหน้าอกของคนที่ไม่มั่นใจในหน้าอกหน้าใจตัวเอง
หรือมีลักษณะที่ไม่ต้องการของเรา แต่
การเสริมหน้าออกต้องใช้เงินจำนวนมาก
แล้วต้องเเลกมากับความเจ็บปวดในระยะสั้น
การหาเงินจำนวนมากๆนั้นหายากมาก
ต้องเก็บเงิน ทำงาน อดออมหลายเดือน หลายปี แต่ทางเราขอ
แนะนำเว็ปลงทุนน้อยแต่ได้กำไรกลับคืนมาแบบมหาศาล
ภายในไม่กี่วัน หรือในไม่กี่ชั่วโมง
ลงทุนน้อย กำไรหนักแน่น ลงทุนที่ไหนเวลาไหนก็ได้ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด
สมัครลงทุนง่ายๆ ไม่ยาก เพียงแค่มีเบอร์โทร
ก็สามารถทำรายการสมัครเข้าร่วมลงทุนกับทางเราได้แล้ว สนใจสมัคร
// คลิ้ก //
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : POPCORN
เมื่อ 23 ต.ค. 2566 05:28:49 น. อ่าน 52 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์