balldoo
Menu

1 วัน กับ 9 วิธีการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพดี

สุขภาพที่ดี ใครๆ ต่างก็ต้องการ แต่จะมีสักกี่คนที่จะหันมาดูแล เอาใจใส่ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างจริงๆ จังๆ จากสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ เกี่ยวกับข่าวสารการระบาดของโรคโควิด – 19 ที่กำลังระบาดอย่างหนัก และมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงข่าววัคซีนที่ไม่สามารถป้องกันโรคได้ ซึ่งก็เชื่อว่าหลายๆ คนกำลังอยู่ในภาวะที่เครียด ใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความกังวัลใจ หลายๆ คนเป็นห่วงคนอื่น อยากให้คนอื่นมีความสุข จนลืมนึกถึงตัวเอง ก่อนที่เราจะปรารถนาดี หรือส่งต่อความสุขให้คนอื่น เราก็ต้องมีสุขภาพที่ดี แข็งแรงทั้งกายและใจ สุขภาพที่ดีไม่มีขาย วันนี้เรามี 8 วิธีการดูแลสุขภาพตัวเองใน 1 วัน (Self-Care) มาฝากกันค่ะ โดยเริ่มต้นจาก

1. การดูแลสุขภาพร่างกายตัวเอง

1.1 การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางอาหาร และรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเช้า ตลอดจนการดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอระหว่างวัน เป็นวิธีง่ายๆ ใกล้ตัว ที่คุณสามารถที่จะดูแลตนเองได้ทุกวัน

1.2 นอนหลับให้เพียงพอ การนอนที่มีคุณภาพคือการนอนหลับสนิทและให้เวลาเพียงพอให้ร่างกายได้รู้สึกพักผ่อน ตื่นมาสดชื่นและมีพลัง การเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยรักษาสมดุลการนอนได้

1.3 ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้สุขภาพกายแข็งแรง มีพลัง อารมณ์ดีขึ้น ลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ สิ่งสำคัญก็คือเมื่อเลือกรูปแบบการออกกำลังกายในแบบที่ชอบหรือเหมาะกับเราแล้วจงเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ และทำให้เป็นกิจวัตร

2. เมตตาต่อตนเอง

เชื่อว่าแต่ละคนย่อมต้องมีวันแย่ๆ บ้างในชีวิตหนึ่ง ช่วงที่สิ่งต่างๆ อาจไม่เป็นไปดังใจคิดหวัง แต่การกดดัน หรือตีกรอบเคร่งครัดกับตนเองมากไป อาจทำให้สถานการณ์แย่ลง โปรดเมตตาตนเองและให้กำลังใจตัวเองบ้าง ปฏิบัติต่อตนเองให้เหมือนกับที่เราจะปฏิบัติต่อเพื่อนในสถานการณ์เดียวกัน

3. ทำงานอดิเรกหรือเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ

การแบ่งเวลาให้งานอดิเรกที่เราสนใจ หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ นอกจากให้ความเพลิดเพลินแล้วยังมีประโยชน์อีกมากมาย อาจจะลองหากิจกรรมที่สนุกและสร้างสรรค์ทำ ซึ่งเป็นการช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นกับตนเอง ช่วยให้เราได้ฝึกปรือฝีมือและความเชี่ยวชาญ และยังเปิดโอกาสให้เราได้พบปะบุคคลใหม่ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสริมความมั่นใจ เพิ่มพูนศักยภาพของตน ทั้งยังเป็นโอกาสดีๆ ที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับงานในอนาคตได้ด้วยเช่นกัน

4. ทำตัวเองให้เป็นประโยชน์ (ช่วยเหลือคนอื่น)

ารร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ชมรม โครงการของชุมชน ตลอดจนงานจิตอาสา งานการกุศล หรือแม้แต่การช่วยเหลือบุคคลที่เรารู้จักเพียงเล็กๆน้อยๆ ตามกำลัง ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่นเท่านั้น หากทว่าได้ก่อเกิดความรู้สึกดีๆ มีคุณค่า ให้กับตนเองด้วย

5. หาเวลาผ่อนคลาย

ปล่อยให้ตนเองได้ผ่อนคลายสบายๆบ้าง มีวิธีการมากมายที่ช่วยให้เราได้ปลดปล่อยอย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นเพลง ดนตรี ศิลปะ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จินตนาการ หรือแม้แต่การทำสมาธิก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีมากทีเดียว

6. กระชับความสัมพันธ์

การหันหน้ามาสื่อสารกับครอบครัวและเพื่อน บางครั้งกำลังใจดีๆ หรือ ความคิดดีๆ มุมมองที่แตกต่าง เราก็อาจจะพบเจอได้จากบุคคลใกล้ตัวของเราเอง

7. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มมึนเมาและสารเสพติด

การพึ่งพาสารเสพติดหรือการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อคลายทุกข์ นอกจากไม่ใช่ทางออกที่ดีแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปัญหาให้มีมากขึ้นด้วย

8. มองภาพรวมหรือภาพใหญ่ของเหตุการณ์

เราต่างก็ให้ค่าให้ความหมาย หรือตีความสถานการณ์จากมุมมองของเราเอง ดังนั้นการมองเหตุการณ์ที่เราเผชิญด้วยภาพรวม หรือภาพใหญ่ (Big picture) ช่วยปรับมุมมองความคิดเราได้ ถามตนเองว่าเราให้ค่าหรือความหมายต่อสิ่งนี้อย่างไร สิ่งที่เรามองเป็นข้อเท็จจริง หรือเป็นแต่เพียงแต่ความคิดเห็นของเรา และถ้าเป็นคนอื่นมองเรื่องนี้เขาจะมองแบบไหนได้บ้าง เป็นต้น

9. ยอมรับ : มันก็เป็นเช่นนั้นเอง

เรามักจะต่อต้านไม่อาจยอมรับสิ่งที่เราไม่ชอบไม่พึงพอใจ แต่ถ้าเราเปลี่ยนเป็นแค่ตระหนักรู้และเรียนรู้จากสิ่งนั้น ในบางสถานการณ์ เราอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย สิ่งต่างๆ ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ไม่คงอยู่ถาวร การยอมรับและเปลี่ยนมุมมองต่อสิ่งนั้นช่วยให้ชีวิตเบาโล่งขึ้น “ในเมื่อเราไม่อาจหยุดยั้งคลื่นที่โหมกระหน่ำนั้นก็โลดแล่นเล่นคลื่นซะเลย

โพสต์โดย : POPCORN POPCORN เมื่อ 19 ต.ค. 2566 06:17:50 น. อ่าน 54 ตอบ 0

facebook