Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอล
วิเคราะห์บอล
เว็บบอร์ด
เนื้อปลาทูน่าและโลหะหนัก
การลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก
ให้ๆได้ผลดี อาหารก็มีส่วนช่วยสำคัญด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในเมนูเหล่านั้นก็คือ
ปลาต่างๆ
เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีนและให้ไขมันต่ำ อีกทั้งยังเป็น
ไขมันดีและมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายสูง
ซึ่งปลาที่มักจะรับประทานอย่างเป็นที่นิยมและรู้จักกันอย่างขว้างขวาง เพราะหาง่ายและประกอบอาหารได้หลายเมนู มีรสชาติที่อร่อยนั่นก็คือ “
ปลาทูน่า
” รู้จักกับปลาทูน่า ปลายอดนิยมของคนรักสุขภาพ ปลาทูน่าเป็นปลาที่
อาศัยอยู่เป็นฝูงในทะเลหรือมหาสมุทร
ที่ห่างจากชายฝั่ง รูปร่างเพรียว ฐานครีบหูมีกลุ่มเกล็ดเล็กๆ ที่ครีบหางจะเว้าลึก สามารถว่ายน้ำได้รวดเร็ว นิยมนำมารับประทานสดหรือเป็นอาหารสำเร็จรูปในลักษณะของอาหารกระป๋อง โดยปลาทูน่าที่นิยมจับมาเป็นอาหาร ได้แก่
ทูน่าตาโต ทูน่าครีบเหลือง ทูน่าครีบยาว ทูน่าสีน้ำเงิน ปลาโอแถบ และปลาโอดำ
ปลาทูน่ากับโลหะหนักสัมพันธ์กันอย่างไร
โลหะหนักหมายถึงธาตุที่มีน้ำหนักมากกว่า 5 เท่า หรือมีความถ่วงจำเพาะตั้งแต่ 5 ขึ้นไป อาทิเช่น
แคดเมียม โครเมียม ปรอท หรือตะกั่ว
ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกายและยังแพร่กระจายมาจากโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือสถานประกอบการที่ทำธุรกิจด้วยการใช้สารเหล่านี้ผสมอยู่ โดยไม่มีระบบจัดการปล่อยโลหะหนักสู่สิ่งแวดล้อมที่ดี จึงทำให้มีการแพร่กระจายสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง ทะเล และมหาสมุทร เป็นต้น
ปลาทูน่าจัดว่าเป็นอาหารที่มีสารเคมีประเภทปรอทอยู่มาก
โดยพบว่าสายพันธ์ของปลาทูน่าที่มีสารปรอทสะสมอยู่ในตัวมาก ได้แก่
ปลาทูน่าตาโตและบริเวณส่วนเนื้อแดงของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน
สำหรับสายพันธ์ที่พบว่ามีสารโลหะหนักน้อยที่สุด นั่นคือปลาทูน่าครีบเหลืองและส่วนที่เป็นมันของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน แต่ทั้งนี้ก็ยังมีค่าของโลหะหนักเกินกว่าที่กำหนดให้บริโภคแทบทั้งสิ้น อาการและ
โรคที่มาจากปลาทูน่าที่มีโลหะหนัก
โลหะหนักสามารถเข้าสู่ร่างกายของคนได้
จากทางลมหายใจและการซึมเข้าสู่ผิวหนัง
ถ้ามาจากปลาทูน่าก็จะเป็นการรับประทานปลาทูน่าที่มีปรอทเข้าไปบ่อยๆ ซึ่งในระยะแรกจะไม่แสดงอาการอะไรให้เห็น แต่เมื่อเกิดการสะสมในร่างกายจำนวนมากแล้วจะทำให้มีผลต่อร่างกายดังต่อไปนี้ สมองพิการ ตาบอด กล้ามเนื้อสั่น ในสตรีมีครรภ์แม้ว่าจะได้รับโลหะหนักแค่เพียงเล็กน้อย ก็อาจจะทำให้เด็กเจริญเติบโตผิดปกติ มี
ปัญหาทางด้านสติปัญญา
แขนขามีอาการเหนื่อยอ่อนคล้ายคนพิการ หูตึง สูญเสียการประสานงานของกล้ามเนื้อ มีอาการหลอดเลือดแข็ง เป็นอัมพาต หากเป็นพิษรุนแรงก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในกรณีที่มีโลหะหนักอย่างเช่นตะกั่ว อาการที่พบบ่อยๆ คือ
ปวดท้อง น้ำหนักลด คลื่นไส้ อาเจียน ทรงตัวไม่อยู่ ประสาทหลอน เป็นอัมพาต สลบ หรือเสียชีวิต
วิธีแก้ไข
และตัวเลือกที่ควรนำมารับประทาน สำหรับสตรีมีครรภ์หรือต้องให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงปลาทูน่า หรือถ้าต้องรับประทานก็
ไม่ควรเกิน 2–3 ครั้ง ต่อสัปดาห์
หรือใช้วิธีเลี่ยงหันมารับประทานปลาแซลมอน ซึ่งมีปริมาณโลหะหนักน้อยกว่าปลาทูน่า อีกทั้งปลาทูน่าที่เลี้ยงก็ไม่ควรนำมารับประทานเพราะมีไขมันมากกว่าที่มาจากธรรมชาติ ปลาทูน่าที่ผลิตเป็นอาหารกระป๋องก็ควร
เลี่ยงไปรับประทานชนิดปลาทูน่าในน้ำแร่
จะมีความเหมาะสมกว่าปลาทูน่าในน้ำมัน เนื่องจากน้ำมันเป็นตัวที่ละลายไขมันปลาที่มีโอเมก้า 3 ออกมาข้างนอกตัวปลาด้วย แล้วเวลารับประทานก็มักจะเทส่วนที่เป็นน้ำมันทิ้ง จึงทำให้เราไม่ได้รับโอเมก้าอยู่แล้ว หรือเลือกรับประทานปลาที่มีอายุสั้นๆ จะได้ไม่มีโลหะหนักสะสมมาก อย่างเช่นปลาทูและปลาแซลมอนเป็นต้น
การรับประทานปลาเพื่อสุขภาพที่ดีและไม่อ้วน
ก็สามารถเลือกและทำได้ไม่ยาก ปลาทะเลจากน้ำลึกยังเป็นแหล่งอาหารที่ให้ประโยชน์สูงแก่ร่างกายมนุษย์อยู่ดี เพียงแค่ฉลาดรู้และเลือกรับประทานปลาทูน่าหรือปลาอื่นๆ ให้ถูกวิธี จะช่วยให้โลหะหนักไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายจนเป็น
อันตรายต่อสุขภาพ
ได้
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : solo
เมื่อ 7 ต.ค. 2566 18:47:16 น. อ่าน 38 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์