balldoo
Menu

โฮโลแกรมไม่ได้มีความหมายต่อสายตามนุษย์

การรบกวนด้วยกล้องจุลทรรศน์บนโฮโลแกรมไม่ได้มีความหมายต่อสายตามนุษย์มากนัก ในความเป็นจริง เนื่องจากขอบที่ซ้อนทับกันนั้นมีทั้งความมืดและระดับจุลทรรศน์ ทั้งหมดที่คุณน่าจะเห็นหากคุณดูที่ฟิล์มโฮโลแกรมการส่งสัญญาณที่พัฒนาขึ้นนั้นเป็นสี่เหลี่ยมสีดำ แต่นั่นจะเปลี่ยนไปเมื่อแสงขาวดำผ่านเข้ามา ทันใดนั้น คุณจะเห็นภาพ 3 มิติในจุดเดียวกับที่วัตถุ โฮโลแกรม อยู่ตอนที่สร้างโฮโลแกรม เหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ประการแรก แสงจะผ่านเลนส์ที่แยกออกจากกัน ซึ่งทำให้แสงสีเดียวหรือแสงที่ประกอบด้วยสีความยาวคลื่นเดียว กระทบทุกส่วนของโฮโลแกรมพร้อมกัน เนื่องจากโฮโลแกรมมีความโปร่งใส จึงส่งผ่านแสงจำนวนมากซึ่งผ่านไปได้โดยไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะมืดหรือใส ขอบของสัญญาณรบกวนจะสะท้อนแสงบางส่วน นี่คือสิ่งที่น่าสนใจ ขอบสัญญาณรบกวนแต่ละอันเปรียบเสมือนกระจกโค้งที่มองเห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์ แสงที่ตกกระทบเป็นไปตามกฎการสะท้อน เช่นเดียวกับที่มันสะท้อนกับวัตถุเพื่อสร้างโฮโลแกรมในตอนแรก มุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน และแสงเริ่มเคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ มากมายแต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการ เมื่อแสงผ่านสิ่งกีดขวางหรือผ่านช่องแคบ แสงจะเกิดการเลี้ยวเบนหรือกระจายออกไป ยิ่งลำแสงกระจายออกจากเส้นทางเดิมมากเท่าไหร่ แสงก็ยิ่งหรี่ลงตามขอบ คุณสามารถดูลักษณะนี้โดยใช้ตู้ปลาที่มีแผง slotted วางไว้ตามความกว้าง หากคุณวางก้อนกรวดลงที่ปลายด้านหนึ่งของตู้ปลา คลื่นจะกระจายไปยังแผงเป็นวงแหวนศูนย์กลาง มีเพียงชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของวงแหวนแต่ละวงเท่านั้นที่จะทะลุผ่านช่องว่างแต่ละอันในแผงได้ แต่ละชิ้นเล็ก ๆ เหล่านั้นจะกระจายไปอีกด้านหนึ่ง กระบวนการนี้เป็นผลโดยตรงจากการที่แสงเดินทางเป็นคลื่น เมื่อคลื่นเคลื่อนที่ผ่านสิ่งกีดขวางหรือผ่านรอยแยก หน้าคลื่นจะขยายออกไปอีกด้านหนึ่ง มีรอยแยกจำนวนมากระหว่างขอบการรบกวนของโฮโลแกรมซึ่งทำหน้าที่เหมือนตะแกรงการเลี้ยวเบนทำให้หน้าคลื่นที่ตัดกันจำนวนมากปรากฏขึ้นในพื้นที่ขนาดเล็กมาก

โพสต์โดย : ต้าวน้อนกาตู๊ย ต้าวน้อนกาตู๊ย เมื่อ 3 พ.ค. 2566 16:49:18 น. อ่าน 110 ตอบ 0

facebook